วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

สูตร Cuban Ham spread

วันนี้เราทำ cuban ham spread ซึ่งเจ้า spread หลายคนคงเคยได้ยิน tuna spread (ทูน่า สเปรต) ที่ทาบนแครกเกอร์อะครับ อันนี้ก็ทาเหมือนกันแค่เปลี่ยนจาก tuna>> ham ก้อเท่านั้นเองครับ ขั้นตอนก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลยครับ สูตรนี้ผมขอบคุณ http://www.tasteofcuba.com/hamspread.html ครับ ที่มีสูตรง่ายๆ(ซะที่ไหน ภาษาสเปนเพียบ)ให้ผมเรียบเรียงสูตรครับ

วัตถุดิบหรือจะไม่ดิบดีหว่า!?
ครีมชีส 8 ออนซ์ (226.7 กรัม)
มายองเนส 1/2 ถ้วย (แบบเดิมๆ ที่ไม่ low fat อะครับ)
deviled ham 2 กระป๋อง ทำเองได้ เดี๋ยวจะลิ้งก์ให้ครับ
sweet pickle relish 1/4 ถ้วย
พริกหยวกแดงหั่นละเอียด 1/4 ถ้วย
เกลือและพริกไทยดำป่น

ขั้นตอนการทำนะคับ
1 ผสมครีมชีสและมายองเนสให้เข้ากัน
2 ใส่แฮม relish และพริกหยวกหั่นลงไป ผสมให้เข้ากัน แล้วใส่เกลือกับพริกไทยปรุงรสตามชอบ แล้วคลุมให้มิดชิดก่อนนำไปแช่ตู้เย็น 2-3 ชั่วโมงหรือจนกว่ามันจะเย็น
3 เสริฟ์โดยทาบนแครกเกอร์ครับ

ขอบคุณ : http://www.tasteofcuba.com/hamspread.html

สูตร sweet pickle relish

วันนี้เรามาทำเจ้า sweet pickle relish ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายว่ายังไง รู้ว่าใช้แตงกวาทำละกัน ซึ่งเจ้า relish(เครื่องปรุงรส) นี้เป็นส่วนประกอบของเมนูหนึ่งที่จะเขียนต่อในโพสต์หน้าครับ สูตรนี้ผมแปลและเรียบเรียงมาจากคุณ Healther Schulte จากเว็ป http://www.ehow.com/how_4418930_make-pickle-relish_-_canning-recipe.html ครับผม เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปเริ่มหยิบวัตถุดิบมาทำกันเลยดีกว่าครับ

วัตถุดิบที่ต้องเตรียมเด้อ

แตงกวา 4 ถ้วย หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ *ตามสูตรใช้ของปลอดสาร(ออร์แกนิค)
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ *ตามสูตรใช้เกลือทะเลครับ
หัวหอม 1 ถ้วย หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
pickling spice 1 ช้อนโต๊ะ (แปลไม่ออก แต่จะลิ้งก์ไปหาวิธีทำเจ้านี่ให้ครับ)
น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย
น้ำตาล 1 1/4 ถ้วย *ตามสูตรใช้น้ำตาลแดงครับ

มาเริ่มกระบวนการเล่นแร่แปรธาตุวัตถุดิบกันดีกว่าครับ
1 เอาแตงกวามาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนเน้อ ใข้เครื่องหรือมือหั่นก๋ตามสบาย แต่ไม่ต้องปอกเปลือกมันออกนะครับ และถ้าหั่นเอง อย่าลืมเอาเม็ดแตงกวาออกให้หมดด้วยเน้อครับ เมื่อได้แล้วก็โยนลงกระทะหรือหม้อก็ตามสบายครับ

2 ใส่หัวหอมที่หั่นแล้วลงในกระทะหรือหม้อที่คุณใส่เจ้าแตงกวาลงไปนั่นละครับ

3 ใส่ที่เหลือลงไปทั้งหมดเลนครับ ไม่ต้องไปปราณีมัน แล้วตั้งไฟกลาง คอยคนมันบ้าง ไม่ต้องบ่อยมาก
เมือ่มัน slow boil (เริ่มมีฟองปุดๆ นะครับ) ลดไฟลงเหลือแค่ไฟอ่อนให้เดือดกรุ่นๆ สัก 5 นาที แล้วยกลงจากเตาและพักไว้ให้เย็น

4 กรองน้ำออก โดยใช้ช้อนมีรู อยากรู้มันหน้าตายังไงก็พิมพ์ a slotted spoon ใน google ดูเอาเลยครับ
แล้วใส่ในโถปิดมิดชิด เสร็จแล้วเด้อ

ขอบคุณ : http://www.ehow.com/how_4418930_make-pickle-relish_-_canning-recipe.html

วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

สูตร Ensalada de Calabaza Cubana

วันนี้เรามาทำอาหารคิวบากันมั่งดีกว่าครับ โดยผมเอาสูตรที่ชื่อ 'Ensalada de Calabaza Cubana' หรือ 'Cuban Pumpkin Salad' แปลเป็นไทยง่ายๆก็คือ สลัดฟักทองแบบคิวบานั่นเอง สูตรอาหารนี้ผมขอขอบคุณ ''http://www.tasteofcuba.com/pumpkin-salad.html'' เป็นสูตรที่ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอะไรเลยครับ เพื่อไม่เป็นการชักช้า้รามาเตรียมของที่จะทำเลยละกันนะครับ Go Go Go!

วัตถุดิบ : 4 ที่
ฟักทองขนาดปานกลาง 1 อัน เอาผิวสีส้มนะ
หัวหอมหั่น 2 อัน
น้ำส้มสายชู
น้ำมันมะกอก
เกลือ


มาเริ่มทำกันดีกว่า
หั่นฟักทองออกเป็น 4 ส่วนโดยไม่ต้องปอกเปลือกมันออกเน้อ แล้วต้มฟักทองในน้ำผสมเกลือจนเนื้อฟักทองนึ่ม เมื่อนิ่มแล้วเอาฟักทองแล้วเทน้ำไป (เราไม่เอามันอีกแล้ว ไป ไป)
เอาถ้วยออกมาใบนึงแล้วโยนหัวหอมหั่น ใส่น้ำส้มสายชู น้ำมันมะกอกแล้วใส่เกลือปรับรสชาติตามศรัทธาของท่าน แล้วเทใส่ฟักทองเราพักไว้ แล้วเอาฟักทองไปแช่ตู้เย็น 2-3 ชั่วโมงจนมันเย็น แล้วเสริฟ์ครับ


ขอขอบคุณที่มา>> http://www.tasteofcuba.com/pumpkin-salad.html<<

วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554

สูตรซุปมิโซะ

สวัสดีครับทุกๆคน ตอนนี้ผมกำลังเห่ออาหารญี่ปุ่นมาก จึงลองหัดกินดู ซึ่งผมชอบซุปมิโซะมากๆเลย แต่ไม่รู้ทำไมครอบครัวผมไม่ชอบเจ้าซุปมิโซะเอาซะเลย ของออกจะอร่อย ดังนั้นผมเลยเอาสูตรการทำซุปมิโซะที่ผมแปลมาจาก http://www.videojug.com/film/how-to-make-miso-soup ซึ่งผมขอขอบคุณเว็ปนี้ที่ทำให้ผมได้รู้วิธีทำ จะได้บอกแม่ให้ทำให้กินสักที เย้!! เย้ !! เพื่อไม่ให้ชักช้าเสียเวลา เรามาเตรียมของทำกันเลยดีกว่า

วัตถุดิบที่เราต้องเตรียมนะครับ อันนี้สำหรับ 4 ที่นะครับ
สาหร่ายวากาเมะแห้ง 5 กรัม ซื้อเอาใน home freshmart ในเดอะมอลล์
เต้าหู้ิอ่อน 120 กรัม
ดาชิ 400 กรัมหรือน้ำ 400 กรัม+ ผงดาชิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
มิโซะ 1 ช้อนโต๊ะครึ่ง
ต้นหอม 2 ต้น
เหยือกตวงน้ำ 1 อัน
กระทะ 1 ใบ
ชามเล็ก 1 ใบ
ถ้วย 1 ใบ
ช้อนโต๊ะ 1 อัน
ช้อนชา 1 อัน
มีด 1 อัน เอาคมๆหน่อยนะ
เขียงอันเดียวพอ

กระบวนการเล่นแร่แปรธาตุวัตถุดิบเป็นซุปมิโซะ

1 ตอนแรกเอาดาชิเทลงในกระทะ แล้วตั้งไฟแรงเอาไว้

2 ในเวลาเดียวกัน ก็เอาสาหร่ายวากาเมะแห้งใส่ลงในชามเล็กที่เี่ราเตรียมไว้ แล้วเทน้ำให้ท่วมสาหร่าย จนสาหร่ายกลับมาเป็นรูปเดิม

3 ตักมิโซะออกมา 1 ช้อนโต๊ะครึ่งใส่ในถ้วยแล้วใส่น้ำดาชิลงไปละลายมิโซะ คนมิโซะจนเป็นน้ำแล้วใส่ลงไปในกระทะที่มีน้ำดาชิอยู่แล้วคนให้ดาชิกับน้ำมิโซะเข้ากันดี

4 หั่นเต้าหู้อ่อนเป็นรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งจะใส่มากน้อยขึ้นอยู่กับคุณว่าชอบไม่ชอบ แต่แนะนำว่าสัก 120 กรัมกำลังดี แล้วเทเต้าหู้ลงไปดาชิที่ผสมกับมิโซะ แล้วลดไฟลง

5 ใส่สาหร่ายวากาเมะลงไปในดาชิที่ผสมกับมิโซะ แล้วตั้งซุปมิโซะด้วยไฟอ่อนอีกประมาณ 2-3 นาทีเพื่ออุ่นแล้วยกลง ตักแบ่งใส่ชามแล้วหั่นต้นหอมใส่ลงไปถ้วย เสร็จพิธีแล้วครับ

เอาละๆ ผมขอทานก่อนละนะครับ  いただきます!
สำหรับตอนนี้ผมขอให้ทุกท่านมีความสุขกับทานซุปมิโซะนะครับ ขอให้อร่อยทุกท่าน

http://www.videojug.com/film/how-to-make-miso-soup

สูตรดาชิ (Dashi)

วันนี้เรามาทำส่วนผสมสำคัญของอาหารญี่ปุ่น คือ ดาชิ (Dashi) ซึ่งเป็นส่วนผสมที่สำคัญของซุปมิโซะที่ผมนำเสนอต่อไป ซึ่งดาชินี้ผมขอขอบคุณจากเว็ป http://www.videojug.com/film/how-to-make-dashi เอาละอย่ามัวชักช้าร่ำไรอยู่เลย มาเตรียมของทำกันดีกว่า

สิ่งที่เราต้องเตรียมนั่นก็คือ


น้ำ 1 ลิตร
สาหร่ายแห้ง 20 กรัม
ปลาทูน่ารมควันอบแห้งฉีกเป็นแผ่นๆ 20 กรัม
น้ำเย็น 50 มิลลิลิตร
กระทะใบใหญ่ 1 ใบ
ตะแกรงอันนึงและผ้าขาวบาง
ถ้วย 1 ใบ

ขั้นตอนการทำดาชินะครับ
1 ก็เริ่มต้นกันด้วยเตรียมกระทะโดยใส่น้ำ 1 ลิตรลงไป แล้วเอาสาหร่ายแห้งลงไปแช่ในน้ำอย่างน้อย 2 ชั่วโมงหรือจนกว่ามันจะแผ่ดีแล้ว แต่อย่าเกิน 5 ชั่วโมงเพราะสาหร่ายจะเน่าซะก่อน แล้วเอากระทะที่แช่สาหร่ายไปตั้งไฟแรง ก่อนจะน้ำที่เราต้มจะถึงจุดเดือด ซึ่งสังเกตได้จากการที่น้ำเริ่มมีฟองปุดๆ ก็เอาสาหร่ายออก แล้วตั้งไฟไปอีก 1-2 นาทีก่อนแล้วปิดไฟ แล้วจึงใส่น้ำเย็นที่เรามีลงไปในน้ำทีเราต้มเพื่อให้มันเย็นได้อย่างรวดเร็ว
2 ต่ิอไปใส่ปลาทูน่ารมควันอบแห้งฉีกลงไปในกระทะที่เราใส่น้ำเย็นลงไปแช่ประมาณ 15 นาที ซึ่งเมื่อผ่านไป 15 นาทีแล้ว เจ้าปลาทูน่ารมควันอบแห้งฉีกนั่นควรลงไปนอนก้นกระทะหมดแล้ว
3 และเมื่อมาุถึงขั้นตอนสำคัญและยากโคตรๆของการทำดาชิแล้ว นั่นก็คือ เอาตะแกรงกับผ้าขาวบางวางบนถ้วยเพื่อกรองเอาแต่น้ำเท่านั้น ซึ่งผ้าขาวบางที่ใส่ปลาทูน่ารมควันอบแห้งฉีกนั่นไม่ต้องบีบแรง ปล่อยให้น้ำของมันก็พอ เมื่อกรองเสร็จแล้วก็เสร็จพิธี คุณก็ได้ดาชิมาไว้ในครอบครองแล้ว ยินดีด้วย
สำหรับวิดีโอวิธีการทำดาชิดูได้จาก >>http://www.videojug.com/film/how-to-make-dashi<<

วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

สูตรคะน้าและชีสเผ็ดสไตล์เอธิโอเปีย

วันนี้เรามาทำอาหารเอธิโอเปียกันเหมือนเดิมๆนะครับ โดยวันนี้ผมขอนำเสนอ'Ethiopian Spicy Cheese with collard green' หรือที่ปัญญาเท่าหางอึ่งของผมแปลได้ว่า 'คะน้าและชีสเผ็ดสไตล์เอธิโอเปีย' ซึ่งเมนูนี้ใช้เครื่องเทศ เช่น กระเทียมเยอะ ถ้าใครเป็นพวก เครื่องเทศlover ผมก็ดีใจด้วย เพราะคุณคงจะสนใจเมนูนี้ ใครไม่ชอบก็ทำใจให้ชอบๆหน่อยละกัน เด๋วผมไปไม่ถูก สูตรนี้ผมต้องขอบคุณคุณ yewoinfamilycooking จาก food.com ซึ่งถ้าหากคุณเตรียมตัวเตรียมใจที่จะทำเมนูนี้แล้ว ก็เริ่มลงมือทำกันได้เลย ไป !!ไป!! ไป!!
วัตถุดิบนะขอรับ สำหรับ 8 ที่(แต่ถ้าใครกินคนเดียวหมดก็ไม่ขัดข้องครับ)

ชีสทำเองหรือชีสซื้อก็ได้ แต่เอาไม่เค็ม 5 ขีด
คะน้า 5 ขีด
เนยเหลวแบบเอธิโอเปียหรือเนยเหลวก็ได้ 2 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น 1 ช้ิอนโต๊ัะ
หัวหอม 1/2 หัว
กระเทียม 4 กลีบ
ผงกระเทียม 1/4 ช้อนโต๊ะ
ผงกระวานไทย 1/4 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำและพริกไทยขาวอย่างละ 1/4 ช้อนโต๊ะ
เกลือ

ส่วนวิธีทำนะครับ
1 เริ่มต้นด้วยเด็ดใบคะน้าออกมาไม่เอาก้านเน้อพี่น้อง ล้างใบคะน้าให้สะอาดด้วยน้ำเย็น
2 มาต่อกันด้วยต้มน้ำในหม้อใบใหญ่ (ก็แน่ละกินตั้ง 8 คน) โยนหัวหอม กระเทียมกลีบ โรยพริกไทยดำ ใส่พระเอกของงานนี้คือ ใบคะน้าลงไป เอาไปต้มสัก 15 นาทีก็พอแล้ว
3 กรองเอาแต่ใบคะน้าที่เราต้มไว้ก็พอ นอกนั้นก็ทิ้ง ทิ้ง ทิ้ง ไป แล้ว ใส่คะน้าลงในจานผึ่งให้ผักเย็น แล้วสีบคะน้าที่แห้งแล้วให้ละเอียดนะครับ
4 หยิบถ้วยออกมา ใส่ชีสแล้วบี้ชีสด้วยส้อม
5 เอาคะน้าที่เราหั่นไว้แล้วลงในผสมกับชีสที่้เราบี้ไว้ แล้วพักไว้ก่อนเน้อ
6 หยิบหม้ออีกใบ ตั้งไฟอ่อน (ไม่ใช่ไฟnoobนะ) ใส่เนยลงในพอมันละลายแล้ว ยัดพริกป่น กระวาน พริกไทยขาว ผงกระเทียม คลุกให้เข้ากันเพราะเราจะเอาไปคลุกกับคะน้าที่เราเตรียมไว้ แล้วยกลง
7 เอาทั้ง 2 อย่างคลุกเคล้ากันจนเข้ากันดีแล้วก็เสริฟ์ได้โลด อ้อ ใส่เกลือลงไปตามชอบใจ
8 ถ้ากินไม่หมดให้เก็บในตู้เย็นเน้อ เด๋วเน่า(ไม่เชื่อก็ลองดูได้ ไม่ได้ท้า แต่อยากให้ลองดู)
หากไม่เข้าใจหรือมีปัญหาตรงไหน สามารถดูต้นฉบับที่ผมเอามาแปลได้
>>http://www.food.com/recipe/ethiopian-spicy-cheese-with-collard-greens-294982<< ปล. เป็นภาษาอังกฤษทั้งเว็บเลยจ้า หากอยากได้สูตรไหนก็บอก จะรีบแปลสูตรให้ครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ มีข้อเสนอแนะหรือตำหนิอะไร กรุณาเม้นบอกได้เลยนะครับ -----สำหรับผู้ที่อยากได้สูตรทำเนยเหลวแบบเอธิโอเปีย กรุณาคลิก>>วิธีทำเนยเหลวเอธิโอเปีบ<<

วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554

สูตรแซนวิชไก่งวงเนื้อย่างพริกไทย

วันนี้เรามากินไก่งวงกันดีกว่า ซึ่งผมก็มีเมนูแนะนำก็คือ "เนื้อย่างพริกไทยและแซนวิชไก่งวง"นั่นเอง ผมเองก็ยังไม่เค้ยไม่เคยกินเจ้าไก่งวงนี่ซักที แล้วจะอร่อยมั้ยนะ แต่ถ้ามันไม่อร่อยเขาก็คงไม่เอามาทำหรอกจริงมะ ซึ่งสูตรนี้ต้องขอบขอบคุณคุณ Queen Dragon Mom แห่ง food.com ครับ เรามาดูวัตถุดิบกันดีกว่าครับมีเขามีอะไรกันบ้าง อ้อ อันนี้สำหรับ 2 ที่นะครับ

เครื่องปรุงนะครับ
ขนมปังหั่นหนา 4 แผ่น
ไก่งวงหั่น 4 ชิ้น
เนื้อวัวย่างหั่นบางๆ 4 ชิ้น
เบคอนสุก 4 ชิ้น
มายองเนสพริก chipotle (พริกอื่นๆก็น่าจะได้นะ)4 ช้อนโต๊ะ (ผมมีวิธีทำให้ ถ้าไม่อยากซื้อ)
*****วิธีทำมายองเนสพริกนะครับ*****
1 มายองเนสไขมันต่ำ 1 ถ้วย
2 ซอสพริก chipotle แต่ผมว่าเอาเป็นซอสพริกกะเหรี่ยงดีมั้ย เผ็ดสะใจดี 1-2 ช้อนโต๊ะ
3 ยี่หร่า 1 ช้อนโต๊ะ
เอาทั้งสามอย่างมาปั่นก็เสร็จ ถ้าไม่แน่ใจดูเพิ่มเติมที่ : http://www.yummly.com/recipe/Spicy-Chipotle-Chili-Mayonnaise-Epicurious
ชีส monterey jack (ชีสเผ็ด) 2 แผ่น
เนย ใช้ตอนย่าง

วิธีทำ
1 ทาเนยด้านเดียวที่ขนมปัง 2 แผ่น
2 เอาขนมปัง 2 แผ่นตรงด้านที่เนยทาลงไปปิ้ง ทามายองเนสพริกลงในขนมปังที่ปิ้งไว้
3 เอาไก่งวงและเนื้อย่างที่หั่นไว้อย่างละ 2 ชิ้นใส่ในขนมปังที่ทามายองเนสพริกแล้วเอาเบคอนวางลงบนเนื้อย่าง
4 เอาชีสที่เรามีวางบนเบคอนแล้วเอาขนมปังที่เหลืออีก 2 ชิ้น ประกบกับขนมปังที่ปิ้งไว้ 2 แผ่นก่อนหน้า แล้วทาเนยด้านบนของขนมปังที่เรากระทบ
5 กลับด้านแซนด์วิชและปิ้งจนกว่าจนกว่าทั้ง2 ข้างจะเหลืองและชีสละลายแล้ว
6 เอาแซนด์วิชออกจากที่ปิ้ง หั่นครึ่งเสิร์ฟพร้อมกับแตงกวาดองและมันฝรั่งทอด
ทีมาจาก : http://www.food.com/recipe/pepper-grill-beef-and-turkey-sandwich-188086

สูตรสลัดผักโขมสไตล์ตุรกี

วันนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศทำสลัดกันดีกว่า ใครชอบกินผักบ้างยกมือหน่อย อ้าว! ไม่กินกันหรอกหรอครับ ผมก็ไม่กินแต่เดี๋ยวนี้ต้องกินไม่งั้นได้จองตั๋ว ViP หาท่านยมแน่ๆ แต่ถ้าใครกินผมก็อนุโมทนาขอให้ร่างกายแข็งแรงยิ่งๆขึ้นไปนะครับ เอาละครับ ซึ่งสูตรนี้ขอขอบคุณ happy harry #2 แห่ง food.com ครับ เอาละครับ มาเริ่มกันเลยดีว่านะครับ แล้วถ้าอร่อยไม่อร่อยยังไงก็เม้นท์บอกกันมั่งเน้อๆๆๆๆๆๆๆๆ

เครื่องปรุงนะครับ
ผักโขม 5 ขีด ล้างแล้วเอารากออก
มะเขือเทศ 2 ลูก หั่นสไลด์
scallion 6 อัน หั่นบางๆ
โยเกิร์ตสดไขมันต่ำ 5 ช้อนโต้ะ
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียม 2 กลีบ บด
ใบไทม์แห้ง 1/2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ
พริกไทย

วิธีทำ
1 ให้ผักโขมแห้งก่อนแล้วฉีกเป็นชิ้นใหญ่ๆใส่ไปผลมกับมะเขือเทศกับ scallion
2 ใส่เครื่องปรุงที่เหลือลงไป ใส่เกลือและพริกไทยตามชอบ
3 ใส่โยเกิร์ตลงไปแล้วผสมให้เข้ากัน
4 ปรุงรสตามชอบ

--จาก : http://www.food.com/recipe/turkish-spinach-salad-164533?mode=metric&scaleto=4.0&st=null

วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2554

สูตรfish and chip

วันนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศมาทำอาหารขึ้นชื่อของอังกฤษกันนะครับ ซึ่งนั่นก็คือ (Fish and Chip) นั่นเองหรือแบบไทยๆก็คือ ปลาทอดกับมันฝรั่งทอดนั่นเองครับ ซึ่งสูตรนี้ผมเอามาเวป youtube ครับ ซึ่งเป็นเมนูที่ผมอยากกินมากๆ เลยแต่ผมยังซื้อเบียร์มาไม่ได้ (ถ้าใครซื้อได้ ส่งมาให้กระป๋องนึงสิครับ 555+) อย่าชักช้าเสียเวลาเลยครับ มาโซโล่เตรียมวัตถุดิบกันดีกว่าครับ

วัตถุดิบสำหรับ 2 ที่ ครับ
เนื้อปลาเลาะก้างออก 2 ชิ้น (ปลาคอด ปลาแฮดด๊อก ปลากะพง ปลาแซลมอนหรือปลาเนื้อขาวอื่นๆ)
น้ำมันพืช 1.5 ลิตร
แป้งอเนกประสงค์ 140 กรัม
แป้งข้าวโพด 50 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา
ไข่ 1 ฟอง
เบียร์ 250 มิลลิลิตร (ดูปริมาณข้างกระป๋องเบียร์)
เกลือ 1 ช้อนชา
เกลือและพริกไทย
และเฟร้นฟรายด์ (ซื้อเอาตามห้างbig c lotus มีขายหลายยี่ห้อ)

ขั้นตอนการทำ
1 ตั้งเตาโดยเทน้ำมันทั้งหมดที่เตรียมลงในกระทะ โดยใช้ไฟปานกลาง ให้ร้อนพอที่จะทอดแต่อย่าให้มีควัน
2 ทำแป้งชุบโดยใส่แป้งอเนกประสงค์ แป้งข้าวโำำพด เกลือและผงฟูในถ้วย คนให้เข้ากันดี แล้วพักไว้
3 ผสมเบียร์และไข่ลงในอีกถ้วย ตีไข่และเบียร์ให้เข้ากัน
4 เอาถ้วยเบียร์ที่ผสมเทลงในถ้วยแป้งที่ผสมไว้ ตีผสมให้เข้ากันจนแป้งไม่เป็นก้อน พักแป้งเอาไว้
5 เตรียมเนื้อปลา โดยเช็ดปลาให้แห้งเพื่อช่วยให้เวลาทอดกรอบมากขึ้น และเอานิ้วเช็คชิ้นปลาที่เตรียมไว้หาก้างที่หลงเหลือ
6 เช็คน้ำมันว่าใช้ได้หรือไม่ โดยหยดแป้งชุบลงไปนิดหน่อย ถ้าแป้งลอยขึ้นมาโดยไม่ไหม้ก้อok เอาปลาลงในแป้งชุบแล้วชุบให้ทั่ว ก่อนจะนำลงกระทะ ทอดครั้งละชิ้นเท่านั้ีนเพราะอาจจะทำให้ปลาติดกันได้
7 กลับข้างปลา ทอดข้างละ 4-7 นาทีแล้วแต่ขนาดปลา เอาปลาขึ้นเมื่อเป็นสีเหลืองกรอบ แล้วเอาไปพักน้ำมันไว้
8 ทอดเฟร้นซ์ฟรายให้สุก
9 เสิร์ฟปลาำพร้อมเฟรนซ์ฟราย โรยเกลือและพริกไทยปรุงรสตามชอบ

จาก : http://www.youtube.com/watch?v=qKeeNkz2XjI

วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554

สูตรน้ำพั้นซ์แบบเอธิโอเปีย

วันนี้เราดื่มเครื่องดื่มชิวๆกันหน่อยดีกว่านะครับ ซึ่งผมขอนำเสนอ น้ำพั้นซ์แบบเอธิโอเปียนะครับ ซึ่งสูตรนี้ผมเอามาจาก chabear01 แห่ง food.com ครับ เรามาดูวัตถุดิบที่จะทำครับว่ามันมีอะไรบ้าง อย่าชักช้าครับ อย่ามองแต่หน้าจอคอมสิครับ ไปเตรียมของได้แล้วครับ

วัตถุดิบที่ต้องเตรียมนะครับ
น้ำเชื่อมรสราสเบอร์รี่ 1 ถ้วย
น้ำเชอร์รี่มาราสชิโน่ 1 ถ้วย
น้ำส้ม 1 ถ้วย
น้ำมะนาว 1 ถ้วย
น้ำสับประรด 1 ถ้วย
น้ำองุ่น 1 ถ้วย
โซดา 2 ควอตซ์ ครึ่งหรือ 100 ออนซ์

วิธีทำนะขอรับ
1 ผสมทุกอย่างในถ้วยพั้นซ์
2 ตกแต่งด้วยส้ม 1 ชิ้น
3 ดื่มได้เลย!!!!!

จาก : http://www.food.com/recipe/ethiopian-punch-173688

สูตรขนมปังแบบเอธิโอเปีย (Injera)

วันนี้เรามาดูวิธีการทำขนมปังของคนเอธิโอเปียกันดีกว่าว่า้เขาทำกันอย่างไร ถ้านึกไม่ออกว่ามันหน้าตายังไงก็ลองนึกถึงแป้งเครฟดูสิครับ ไอขนมปังนี่หนากว่าหน่อย ซึ่งสูตรที่ผมเอามานี้เป็นเวป www.exploratorium.edu ครับ ซึ่งขนมปังนี่มีหลายสูตรยากง่ายแตกต่างกันไป ซึ่งจะเอาเพิ่มเติมภายหลังครับ ขนมปังนี่คนเอธิโอเปียกินเหมือนข้าวของคนไทยครับ มีแหงมากมายที่กินกัยขนมปังนี่ เดี๋ยวผมจะเอามาเพิ่มเติมอีกนะครับ เรามาดูวิธีการทำดีกว่าครับ อย่าช้าครับ อย่าช้า

มาดูวัตถุดิบก่อนเลยนะครับ

แป้งteff (หญ้าที่พบในเอธิโอเปียเท่านั้น ถ้าบ้านใครอยู่ที่เอธิโอเปียก็เอามาใช้ได้นะ) 1/4 ถ้วย หรือแป้งสาลีก็ได้
แป้งอเนกประสงค์ 3/4 ถ้วย
น้ำ 1 ถ้วย
เกลือเล็กน้อย
น้ำมันพืช

อุปกรณ์
ถ้วย
กระทะเทฟลอน

วิธีทำนะครับ
1 ใส่แป้งteffหรือแป้งสาลีที่เรามีลงในถ้วย แล้วร่อนแป้งอเนกประสงค์ลงในถ้วย
2 ค่อยๆเติมน้ำลงไป คนอย่าทำใ้ห้เป็นก้อน
3 ใส่เกลือลงไปผสม
4 อุ่นกระทะเทฟลอนโดยไม่ต้องใส่น้ำมันนะครับ (ย้ำว่าอย่าใส่นะครับ!) แล้วดูกระทะเรียบเสมอกันนะครับ
ไม่งั้นขนมปังคุณจะเละแน่เมื่อคุณแงะมันออกจากกระทะ
5 เทแป้งลงกระทะเทฟลอนแบบที่ทำเครฟน่ะครับ แต่ต้องให้หนากว่า
6 รอจนกว่าแป้งจะมีรูอากาศปรากฎที่ผิวขนมปัง เมื่อผิวมันแห้งดีแล้ว ก็แงะขึ้น แล้วปล่อยให้มันเย็นก็เสร็จพิธี

จาก : http://www.exploratorium.edu/cooking/bread/recipe-injera.html